ดิฉันได้รับ email จากคุณแม่หลายๆ ท่าน และมีคำถามที่ ถามมาเหมือนๆกันว่า ลูกอายุ 2 ปี จะต้องเริ่มเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง
บทความนี้เป็นคำตอบ รวบรวมมาครบถ้วนค่ะ มี 20 ข้อ เสริมพลังสมองให้ลูก สำหรับเด็กอายุ 1-3 ปี
Author Archives: admin
พรีเทส สาธิตประสานมิตร
มาแล้วค่ะ ใครจะพาลูกไปลองสนามรีบสมัครนะคะ
เด็กสร้างภาพ(ในใจ)
การสร้างภาพในใจ เคยทดสอบลูกไหมคะ ว่าเขาสร้างภาพในใจเก่งแค่ไหน ทราบหรือไม่ว่าเด็กที่สร้างภาพในใจได้ดีนั้น เขาจะสามารถตอบคำถามจากเรื่องที่ฟังได้ถูกต้อง และสามารถทำโจทย์แนวต่อลายภาพ ต่อจิ๊กซอ เขาวงกต วางแผนเก่ง คิดเลขในใจเก่ง โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์เก่ง อีกหลายเก่งเลยล่ะค่ะ ดังคำกล่าวที่ว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ (ไม่ใช่ความรู้ไม่สำคัญนะ ความรู้ก็สำคัญ แต่จินตนาการสำคัญกว่า)
ดังนั้น มาฝึกลูกให้สร้างภาพในใจกันนะ เริ่มจากทดสอบก่อนเลย ให้ลูกลองหลับตา แล้วถามว่า “เห็นหน้าแม่ไหม ตอนหลับตา” ถ้าลูกตอบมาว่า “เห็นแต่มืดๆ ไม่เห็นหน้าแม่เลย” นั่นคือลูกยังสร้างภาพในใจไม่เป็น ถ้าลูกเห็นภาพแม่ขณะหลับตาได้ ก็แนะนำเขาไปเลยว่า เวลาฟังนิทาน ฟังเรื่อง ให้นึกเป็นภาพขึ้นมาให้ชัดๆ ให้เหมือนดูทีวีเลยนะ ใส่อารมณ์ความรู้สึกตามเนื้อเรื่องที่ฟังด้วย แล้วฝึกเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ฟัง กับความคิดเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น ได้ยินคำว่า มะนาว ให้นึกถึงภาพมะนาว หรือน้ำมะนาว นึกถึงกลิ่นของมะนาว รสชาติเปรี้ยว การจินตนาการแบบนี้จะช่วยให้จดจำสิ่งที่ได้ฟัง ได้ดีขึ้น เพราะจะสามารถย้อนสิ่งที่ได้ฟังกลับมาได้ คล้ายการบันทึกเทป
พี่ชายวิ่งเร็วกว่าพ่อ แต่ช้ากว่าแม่ ใครวิ่งเร็วที่สุด ใครวิ่งช้าที่สุด
โจทย์แนวนี้วิธีคิด คือ
1.ฝึกทวนคำถาม
2.สร้างภาพตาม โดยนึกถึงภาพ พ่อของเราเองเลยวิ่งกับพี่ พี่วิ่งแข่งแซงหน้าพ่อ และมีภาพพี่ชายวิ่งตามหลังแม่ เวลาจินตนาการให้เห็นพร้อมกันทั้งสามคนเลยนะคะ คำตอบจะมาเองเลย โจทย์จะถามอะไร ตอบได้หมด
การฝึกแบบนี้ อย่าคิดว่าเสียเวลานะ ฝึกกันไม่นานเลยค่ะ ยิ่งเด็กที่จินตนาการสูง แค่กระตุ้นให้เขาคิดเป็นภาพ ฝึกไม่นาน ก็คล่องแล้วค่ะ โจทย์พวกต่อลายภาพ ภาพหมุน ก็ใช้จินตนาการสร้างภาพได้ เด็กๆ เขาเก่งกว่าผู้ใหญ่อีก เรื่องสร้างภาพในใจ แต่ต้องกระตุ้นให้เขาทำช่วงเริ่มต้น
เชื่อเลยว่า เด็กๆ ที่ทำโจทย์แนวการฟังไม่ค่อยได้ เขาจะฟังแบบผ่านหู ไม่ได้สร้างภาพตาม ทำให้นึกย้อนกลับไม่ได้ ส่วนเด็กที่ทำโจทย์แนวการฟังได้ดีนั้น เวลาฟังคำถามเขาสามารถนึกภาพย้อนกลับไปทวนเรื่องได้เอง เขาจึงตอบคำถามได้
ติดปีกเพิ่มคะแนนสอบ
สร้างความรอบรู้
ฝึกความรอบคอบ
จดจ่อและแน่วแน่
รู้จุดอ่อนของตัวเอง
1. สร้างความรอบรู้
ความรู้รอบตัวหาได้จากหนังสือภาพ สารคดีสำหรับเด็ก สิ่งที่ได้เจอได้เห็นในแต่ละวัน การได้ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ คุณพ่อคุณแม่เล่าเรื่องราวสิ่งที่เห็นให้ฟัง ขยันตอบข้อสงสัยของลูก หนังสือนิทาน การฟังข่าว ดูรายการทีวีที่ส่งเสริมความรอบรู้ และรายการวิทยาศาสตร์ ช่วยเสริมสร้างความรู้รอบตัวให้ลูกได้ค่ะ
หนังสือ 2 เล่มนี้ ควรนำมาอ่านให้เด็กๆ ฟังด้วยค่ะ อธิบายให้เข้าใจด้วยนะ ควรรู้ก่อนสอบ
2. ฝึกความรอบคอบ
หมายถึง ความรอบคอบในการตอบคำถาม เริ่มจาก
1. นิ้วชี้ข้อที่คุณครูอ่านคำถาม ข้อที่กำลังทำ เพื่อไม่ให้ตอบผิดข้อ ครูพูดว่า ข้อ 1 นิ้วต้องชี้ตรงข้อ 1 จะได้ไม่สับสน
2. ตั้งใจฟังคำถามจากคุณครูให้จบก่อน แล้วฝึกทวนคำถามด้วย เพราะคุณครูอ่านคำถามให้ฟังเพียงครั้งเดียว สำคัญควรฝึกให้คล่อง
3. เมื่อรู้และเข้าใจคำถามแล้ว ให้เริ่มคิดหาคำตอบ ดูตัวเลือกทั้งหมดที่ให้มา จากนั้นจึงเริ่มตัดคำตอบที่ผิดออกไป
โจทย์แนวสังเกต ต้องเริ่มจากหาจุดแตกต่างของแต่ละตัวเลือกก่อน แล้วจึงเริ่มตัดข้อผิดออกไป เมื่อเหลือ 2 ตัวเลือกสุดท้าย ให้เปรียบเทียบหาจุดแตกต่างกันให้เจอก่อน แล้วกลับไปดูที่โจทย์อีกครั้ง ว่าจะต้องเลือกคำตอบข้อไหนจึงจะถูกต้องที่สุด
4. เมื่อได้คำตอบที่ผ่านการพิจารณาแล้วว่าถูกต้องที่สุด ให้ เลือกคำตอบข้อนั้น ถ้าเป็นการเขียนตอบ ให้ตรวจดูด้วยว่า. สิ่งที่เขียนในช่องคำตอบนั้น ถูกต้องหรือไม่ (บางทีเลือกตอบ 3 แต่เขียนเป็น 4 ก็มี)
3. จดจ่อและแน่วแน่
ฝึกสมาธิให้นิ่ง และยาว ควรให้ลูกอยู่ในบรรยากาศการเรียนที่เงียบสงบ ทำกิจกรรมที่ต้องคิดยาวๆ พร้อมสร้างความมุ่งมั่นให้เด็กทำกิจกรรมให้สำเร็จด้วย เช่น การต่อจิ๊กซอ ตัวต่อ การปั้นดิน เปียโน เล่นเกมฝึกคิดฝึกสมอง อ่านหนังสือ เลขคิดในใจโจทย์ปัญหาระคน เช่น แม่ซื้อมะม่วง 4 ผล แอปเปิ้ล 3 ผล ทานมะม่วงไป 2 ผล ซื้อแอปเปิ้ลมา 2 ผล ตอนนี้แม่มีมะม่วงกี่ผล แอปเปิ้ลกี่ผล เริ่มจากง่ายก่อนค่ะแล้วก็ให้ซับซ้อนขึ้น เป็นการฝึกสมาธิให้ยาวได้
การทำกิจกรรมต่างๆ ควรมีเป้าหมายความสำเร็จให้เด็กๆ ด้วยนะคะ เป็นการสร้างนิสัยอดทน และฝึกการทำงานให้บรรลุเป้าหมายค่ะ
4. รู้จุดอ่อนของตัวเอง
ตัวเด็กเองต้องรู้จุดอ่อนของตัวเอง เช่น รู้ว่าวอกแวกง่าย วันสอบเขาจะต้องทำตัวยังไง จะต้องไม่สนใจใคร มุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองไม่สนใจนอกเรื่อง วันนี้วันสอบจะต้องทำให้สำเร็จ
เด็กบางคน ทำข้อสอบต้องขีดนับ ต้องทด ต้องรู้ว่าถ้าไม่ได้ขีดนับ ไม่ได้ทด ต้องผิดแน่ ไม่ได้คะแนนแน่ๆ เขาจะหาวิธียังไงให้ได้ทด ได้ขีดนับ บางคนก็ขีดเล็กๆ จุด พอตัวเองเห็น บางคนก็ใช้เล็บกด ลงกระดาษให้เป็นรอยก็มี นี่คือไหวพริบของเด็กแต่ละคน ที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไหวพริบอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้เด็กคนนั้นต้องรู้จุดอ่อนของตัวเองก่อน
คุณพ่อ คุณแม่ ควรช่วยหาจุดอ่อนให้ลูกด้วยนะ เขาจะได้รู้ตัวเอง ว่าจุดไหนจะต้องระวัง จะต้องแก้ไขกันยังไง เด็กบางคนรู้จุดอ่อนของตัวเองแก้ไขได้เอง แต่เด็กบางคนก็ไม่รู้ คุณแม่ต้องช่วยดูและช่วยหาทางออกให้ด้วย
นอกจากการไปเรียนติว และทำแบบฝึกทักษะเตรียมความพร้อมแล้ว หลักการทั้ง 4 ข้อข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเสริมควบคู่กันไปกับการเรียนด้วยค่ะ
ตัวช่วยสำหรับฝึกสังเกตและสร้างเชาว์ปัญญา
วันนี้จะมาแนะนำหนังสือพัฒนาเชาว์ปัญญาสำหรับเด็กค่ะ เป็นแบบฝึกหัดที่ออกแบบมาดีมาก ช่วยพัฒนาเชาว์ปัญญาได้จริง ทดลองมาแล้วค่ะ ดิฉันซื้อมาให้ลูกๆ ฝึกทำแบบครบชุด อธิบายไม่ถูกจริงๆ คือฝึกทำไปตามหนังสือเลย เป็นหนังสือของญี่ปุ่น มีแบบฝึกครอบคลุมทุกทักษะ เช่น ความเข้าด้านจำนวนและตัวเลข ด้านมิติสัมพันธ์ ด้านการสังเกต การฟัง การจดจำ ภาษา วิทยาศาสตร์ ความรู้รอบตัว ฯลฯ ทุกอย่างเป็นรูปภาพทั้งหมดออกแบบมาสำหรับเด็กๆ โดยตรง เคยเห็นครูติวสอบเข้า ป. 1 ใช้หนังสือแบบนี้ทุกที่ค่ะในส่วนของการฝึกการสังเกตกับเชาว์ การฟังมีบ้างแต่ต้องแปล เรื่องแปลก็ไม่ยากดิฉันแปลเองเลยใช้ app scan translator ใน ipad แปลค่ะ แค่ใช้กล้องถ่ายภาพข้อความที่ต้องการแปล app ก็แปลออกมาได้ค่ะ ส่วนน้อยค่ะที่ต้องแปลเพราะส่วนใหญ่เป็นรูปภาพทั้งนั้น ในส่วนเฉลยก็มีเป็นรูปภาพให้ดูง่ายอยู่แล้ว หาตัวอย่างมาให้ดูกันค่ะ
เตรียมเนื้อหาให้พร้อม
ถ้าตั้งใจจะเตรียมความพร้อมให้ลูกๆแล้วก็เริ่มตามนี้เลยค่ะ เตรียมก่อนสอบ 1 ปีค่ะ แบบค่อยเป็นค่อยไปนะคะ
1. หนังสือเตรียมสอบเข้า ป.1 ตามที่เคยแนะนำไว้ ให้เริ่มจากง่ายที่สุด เน้นสร้างความเข้าใจ สร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุก น่าสนใจ วาดรูประบายสีอธิบาย ดินสอสี สีเมจิ สื่อการสอนสำหรับเด็ก (มีขายที่ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาราชดำเนิน) มีส่วนช่วยสร้างความสนใจได้ ช่วงแรกทำให้เด็กอยากเรียนก่อนค่ะ เรียนแบบสนุก ๆ สำคัญค่ะ ถ้าเด็กอยากเรียนแล้วสนุกกับการเรียนได้ การสอนก็จะง่ายขึ้น (การเรียนความเข้าใจขั้นพื้นฐานควรจบใน 6 เดือนแรกค่ะ)
2. ต้องร่างเนื้อหาที่จะเรียนออกมาเรื่องๆ เขียนขึ้นมาว่าจะต้องเรียนเรื่องอะไรบ้างลองเข้าไปอ่าน
http://www.sobsatit.com/target/default.aspx แล้วเขียนสิ่งที่ต้องเรียนมาให้ครบหรือจะพิมพ์ออกมาเลยก็ง่ายดี พร้อมใส่เลขหัวข้อเรื่องด้วย กระดาษแผ่นนี้มีไว้สำหรับบันทึกผลการเรียนค่ะ ว่าเรียนเข้าใจครบทุกเรื่องหรือยัง เรื่องไหนเก่ง เรื่องไหนต้องปรับปรุง มีประโยชน์มาก
3. เมื่อเรียนจนเข้าใจขั้นพื้นฐานแล้ว ก็ให้หาแนวข้อสอบเก่ามาหัดทำ แนวข้อสอบเก่าซื้อที่ sobsatit.com จะให้ดีพิมพ์ลงกระดาษให้เด็กฝึกทำจะดีกว่า เพราะถ้าข้อไหนไม่เข้าใจ ก็ได้เขียนอธิบายวิธีคิดได้สะดวกกว่าค่ะ แนวข้อสอบเก่าเริ่มทำก่อนสอบจริง 6 เดือน พยามฝึกทำทุกวัน วันละ 60 ข้อ(ขั้นต่ำวันละ40ข้อ)
4. ในแต่ละวัน เริ่มฝึกบวก ลบ เลข การนับเพิ่ม นับลด ก่อน ต่อจากเลข ทำแนวข้อสอบเก่าจบ จะต่อด้วยการฝึกทำเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ(แก้ไขข้อบกพร่องกับทบทวน) และเนื้อหาที่ยังไม่ได้เรียน ส่วน 20 นาทีสุดท้ายของการเรียนจะเป็นเรื่องการฟัง (เรียนวันละ 2 ชม.)
5. เรื่องที่เรียนแล้วยังทำผิดเยอะ ก็บันทึกไว้ที่แผ่นเนื้อหาการเรียนที่ทำไว้ใจข้อ 2.
6. เรื่องไหนที่เรียนแล้วยังทำผิดเยอะ แสดงว่าเด็กยังเข้าใจไม่พอ หรือเคยเข้าใจแล้วและลืมไปแล้ว ควรย้อนกลับมาอธิบายกันใหม่และหาแบบฝึกหัดให้ทำเพิ่มเติมค่ะ
ข้อสอบสาธิตจุฬาฯ ปี55
–ขวดน้ำปิดฝาข้างในมีน้ำ แล้วถ้าคว่ำลงเอาก้นขวดขึ้นจะเห็นเป็นภาพไหน
-มีขวดน้ำไม่มีฝา ให้ตอบว่าฝาไหนที่จะปิดพอดีขวด
– มีแดงกับเขียวชักคะเย่อกัน ในรูปเขียวดึงเชือกจนตัวโย้มาข้างหลัง ถามว่าข้อไหนถูก 1. ทั้งสองออกแรงเท่ากัน 2. เขียวออกแรงมากว่า 3. เขียวออกแรงน้อยกว่า 4. ไม่ออกแรงทั้งสองคน
-รถจอดในลาน 3 คัน แล้วก็ย้ายที่จอดกันไปมา ถามว่า จำนวนรถเป็นยังไง มีให้เลือก มากขึ้น,ลดลง,เท่าเดิม
-มีเงิน 10 บาท ซื้อของ 12 บาท ตอบว่าซื้อไม่ได้เงินไม่พอ ุ
– เรียงลำดับครอบครัว ลูกบอกว่า ตอบ เรียง ผู้ชายไม่ใส่แว่น ผู้ชายใส่แว่น ผู้หญิงที่โตกว่า แล้วก็ผู้หญิงที่อุ้มตุ๊กตา
– อะไรใช้บอกเวลา ตอบ นาฬิกา
– เล็กๆเป็นหาง โตๆเปลี่ยนเป็นขา ตอบ กบ
– ต่อลายภาพ หาภาพที่หายไป หลายข้อ
-มีวงกลมซ้อนกัน 2 วง แล้วมีรูปเด็กในวงกลม มีแรเงาตรงที่วงกลมซ้อนกัน ถามว่าตรงที่แรเงามีเด็กคนใดยืนอยู่
-สุนัขกับปลอกคอ ให้นับจำนวน เท่ากัน มากกว่า หรือ น้อยกว่า ระหว่างจำนวนสุนัขกับปลอกคอ
-จ้ำจี้ผลไม้ แตงไทยแตงกวา ขนุนน้อนหน่า พุทรามังคุด ละมุดลำไย มะเฟืองมะไฟ มะกรูดมะนาว มะพร้าวส้มโอ ฟักแฟงแตงโม ไชโยโห่ฮิ้ว” เจ้าตัวเล็กบอกว่า ผลไม้อะไรอยู่ในเพลงนี้ เลยตอบว่า พุทรา แตงโม และน่าจะมีข้อให้เลือกเป็น มะระกอ ส้มโอ ด้วย อีก 2 ทางเลือก จำไม่ได้จร้า ฟัง เพลงจ้ำจี้ผลไม้ แล้วถามว่า ผลไม้อะไรไม่มีในเรื่อง
-นำหลอดมามัดกัน 10 หลอด เหลือ 3 หลอด น้องบอลมีหลอดกี่หลอด ตอบ 13 หลอด
-กล้วย 6 ผล ทำอย่างไรให้จานข้างบนมากกว่าจานข้างล่าง ข้างล่างมี 2 ผล ข้างบนมี 4 ผล
-สิ่งต่อไปนี้อะไรตัน ตอบดินสอ
-ขวดใส่นำปิดฝาควำลงระดับนำเป็นอย่างไร-ตอบระดับนำอยู่ล่างขนานกับพื้น
-เรียงลำดับสูงไปเตี้ย ตอบลูกชาย พ่อ แม่ ลูกสาว
-อะไรใช้บอกเวลา ตอบนาฬิกา
-เงิน 10 บาทซื้อสมุด 15 บาท ตอบซื้อไม่ได้เงินไม่พอ
-ผลไม้คุณครูบอกว่ามีอะไร ข้อใดมีในเรื่อง ตอบ แตงโม พุทรา ไม่แน่ใจมีมะละกอหรือเปล่า
– ตอนเย็นช่วยพ่อล้างรถ พรุ่งนี้ไปโรงเรียน เมื่อเช้าไปหาหมอฟัน อะไรที่เด็กยังไม่ทำ
-นับปลอกคอกับหมา ตอบเท่ากัน
-เอาตุ๊กตาเด็กผู้หญิงใหญ่2 ตัว วางวงกลมขวามือ วางตุ๊กตาเด็กผู้หญิงเล็ก 2 ตัวเด็กผู้ชายเล็ก 1 ตัววงกลมซ้ายมือ มีภาพวงกลม 2 วงวางทับกันบางส่วนตรงกลางถามภาพใดควรอยู่ที่วงกลมสองวงทับกัน-ตอบเด็กผู้ชายตัวใหญ่
-แม่กับลูกสาวเล่นนำทะเล พ่อนั่งอยู่ที่โซฟาผ้าลูกชายเล่นบนกองทราย ตอบให้ตรงกับภาพ
-เด็กยืนหันหลังให้ยกมือขวาขาซ้ายข้อในตรงกับภาพ
ข้อสอบสาธิตจุฬาฯ ปี58
1.พยัญชนะ ตัวที่ 8 คือตัวใด (จ)
2. มีเรื่องหยิบบัตรคำ เป็นพยัญชนะ ไม่กลับด้าน 2 ตัว กลับด้าน 1 ตัว คือข้อไหน. (ม อ และ ง กลับด้าน)
3. แป้งควรทำตัวอย่างไรถึงเป็นเด็กดี (เก็บเศษขยะไปทิ้งถังขยะ)
4. ข้อใดไม่ควรทำ (ร้องไห้เมื่อแม่มารับช้า)
5. เวลา 8.00 น. คือภาพใด
6. ฤดูร้อน ฝน หนาว คือภาพใด
7. มีเงิน 10 บาท ต้องการซื้อของ 15 บาท ต้องหามาเพิ่มกี่บาท (5 บาท)
8. มีน้ำ 4 แก้ว รู้ได้อย่างไรว่าแก้วไหนเป็นน้ำเกลือ (ชิม)
9. อะไรที่น้ำซึมผ่านไม่ได้ (ถุงพลาสติก)
10. ต่อรถไฟต้องใช้ไม้ทั้งหมดกี่ท่อน (9)
11. ชาย 8 หญิง 6 จับคู่ชายกับหญิงได้กี่คู่ ( 6)
12. ข้อใดมีเกือบ 20 จุด (18)
13. สัตว์ตัวใดต้องเอามาไว้ตรงกลาง มีภาพซ้าย เป็นสัตว์บก กลางเป็นสัตว์น้ำมีหาง ขวามีสัตว์น้ำ (กุ้ง)
14. ครูบอกพยัญชนะและตัวเลข แล้วให้หาตามที่บอก (กจดต03)
15. น้องแป้งมีจิ๊กซอร์อยู่ 7 ช้ิน เอาด้านหน้าเป็น 4 ด้านหลังเป็น 3 ข้อใดถูกต้อง (มีรูปให้เลือก)
16. กุมภาพันธ์ ข้อใดเขียนได้ถูกต้อง
17. เรื่องคาน ผู้ใหญ่ 1 คน = เด็ก 2 คน ผู้ใหญ่ถือส้ม 2 กก. = เด็กถือส้มคนละ 1 กก. ข้อใดถูกต้อง (เท่ากัน)
18. ร้องเพลง เก็บ ๆ ๆ มาช่วยกันเก็บของเล่นที แล้วถามว่าข้อใดการเก็บ (ส่วนใหญ่ตอบ เก็บของเล่น)
19. พับตัด คลี่ ประมาณ 10 ข้อ
20. ตาราง แล้วมีภาพที่หายไป 5 ข้อ
21. ภาพประกอบ 5 ข้อ
ข้อสอบสาธิตจุฬาฯ ปี2556
คัดลอกมาจาก www.momypedia.com
1.เรื่องลูกโป่ง..คุณครูมีลูกโป่ง 10 ลูกแบ่งให้เด็กคนละลูก เหลือลูกโป่ง 1 ลูก
ถามว่ามีเด็กกี่คน..ตอบ 9
2. ข้อใดละลายน้ำได้ ลูกชายตอบน้ำแข็ง
3. กิน หิน บิน ปืน อันไหนแตกต่าง ตอบ ปืน
4. คำใดตรงข้ามกับเร็ว ตอบ..ช้า
5. เทน้ำจากแก้วอ้วนลงแก้วเล็ก ตอบภาพที่น้ำล้นเยอะ
6. มีเรื่องแตงโมแบ่งออกเป็น3 ส่วน น้ำหนักเป็นอย่างไร มีภาพแตงโม ½ ลูก ¼ ลูก และอีกภาพที่ขนาดแตกต่างจาก 2 ภาพแรก
7. พ่อล้างจาน แม่ทำอาหาร พี่ชาย น้องสาวเก็บโต๊ะ ให้หารูปตามเนื้อเรื่อง
8. หมาจะไปบ้านแมว แต่ไก่อยู่ตรงกลาง ภาพใดตรงกับเรื่องที่ครูเล่า
9. ครูบอกตัวเลขมา 1 ชุด ให้หาข้อที่มีตัวเลขตามที่ครูบอก
10.เรียงจากเย็นไปหาร้อน
ตอบ น้ำแข็ง น้ำเย็น น้ำ น้ำร้อน
11.มีเด็กผู้หญิง 7 คน เด็กผู้ชาย 7 คน เอาเด็กผู้ชายยื่นตรงกลางแถวกับเด็กผู้หญิงยืนตรงหัวแถวออกจากแถวไปอย่างละ 1 คน จะเหลือเด็กชายและเด็กหญิงเป็นอย่างไร คำตอบ เพิ่มขึ้น ลดลง เท่ากัน
ตอบ เท่ากัน
12.คำไหนตรงข้ามกับคำว่า “ไกล”
ตอบ ใกล้
13. คำถามเกี่ยวกับข้อใดแตกต่างจากพวก 10 ข้อ
14. หาภาพที่สัมพันธ์กับภาพโจทย์ โดยมีภาพความสัมพันธ์ตัวอย่างมาให้ ออก 5 ข้อ (เป็นตาราง 9 ช่อง และมีจุดดำในแต่ละช่องในตาราง)
15. ครูอ่านให้ฟังว่าหนอนอยู่ใน/นอก สี่เหลี่ยม วงกลม และให้หาภาพที่ตรงกับโจทย์
ข้อสอบสาธิตจุฬาฯ ปี2557
คัดลอกมาจาก momypedia.com